อ่านชื่อบทความนี้แล้ว หลายคนอาจสงสัยเลยว่า ไอเดียธุรกิจ หรือแผนธุรกิจนี่เป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะ จะสามารถสร้างได้ใน 1 ชั่วโมง จริงเหรอ ???
ใช่แล้วครับ หลายคนคิดว่าการสร้างแผนธุรกิจจากไอเดียที่มีอยู่ ต้องใช้เวลานานๆ เอกสารหนาเป็นปึกๆ อันนั้นอาจจะใช่สำหรับการทำธุรกิจในอดีต แต่สำหรับโลกปัจจุบันนี้ที่ทุกอย่างเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว การที่นักธุรกิจจะมัวมานั่งหาข้อมูลทีละเรื่อง คิดคำนวณสิบตลบอย่างละเอียดลงลึก กว่าจะได้ข้อมูลที่มากเพียงพอสำหรับการวางแผนธุรกิจ ก็อาจช้าเกินไปที่จะนำธุรกิจนั้นออกสู่ตลาดแล้ว แถมหลายอย่างที่เป็นไอเดียที่เราคิดว่าเจ๋ง ลูกค้าต้องชอบ ก็อาจไม่ใช่ ไม่โดนใจลูกค้า เท่ากับว่าเสียเวลาคิด เสียเงินลงทุนทำ ไปฟรีๆ
ในยุคนี้การคิดและเขียนแผนธุรกิจจึงมักทำในรูปแบบกระดาษแผ่นเดียวที่เราภาษาทางการว่า แคนวาส (Canvas - ขออนุญาตใช้ทับศัพท์นะครับ ไม่อยากแปลว่าผืนผ้าเหมือนที่คนอื่นแปลกัน มันทำให้ความหมายเพี้ยนไป)
แคนวาสด้านการวางแผนธุรกิจ ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีอยู่ 2 ตัวครับ
Business Model Canvas (BMC) เป็นตัวที่ได้รับความนิยมมาสักพักใหญ่ๆ พัฒนาขึ้นโดย Alexander Osterwalder มีจุดเด่นที่เน้นการคิดแบบครบถ้วนทุกมิติที่สำคัญในการทำธุรกิจ เหมาะกับธุรกิจทั่วไปทุกขนาดและแทบทุกประเภท ยกเว้นกลุ่ม Tech Startup
Lean Canvas ออกมาในภายหลัง โดย Ash Maurya ได้ประยุกต์เอา BMC มาใช้แล้วตัดรายละเอียดให้เหลือเฉพาะสิ่งที่สำคัญจริงๆ เพื่อให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้เร็วที่สุด เหมาะมากสำหรับธุรกิจ Tech Startup ที่ความเร็วคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
สำหรับในบทความนี้ ผมจะพูดถึง Business Model Canvas ก่อน เพื่อให้ตอบโจทย์ธุรกิจแทบทุกประเภทได้ครอบคลุมมากกว่านะครับ
BMC เป็นแผนภาพที่ทำให้เราสามารถมองเห็นภาพรวมของโมเดลธุรกิจทั้งหมด ตั้งแต่ลูกค้าเป้าหมายคือใคร เราจะตอบสนองความต้องการอะไรให้เขา เข้าใจว่ารายได้ของธุรกิจจะเกิดขึ้นได้อย่างไร และมีอะไรบ้างที่เป็นต้นทุนสำหรับการดำเนินการ BMC จึงมีประโยชน์มากในการคิดออกแบบธุรกิจใหม่ วางแผนปรับปรุงพัฒนาธุรกิจให้แตกต่างไปจากเดิม และสื่อสารให้คนอื่นๆ รับรู้ได้ง่ายและรวดเร็ว
ในแม่แบบโมเดลธุรกิจจะประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญ 9 ช่อง ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วน ส่วนที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของกระแสรายได้ที่จะเข้ามายังบริษัทจากโมเดลธุรกิจนี้ กับส่วนที่แสดงให้เห็นโครงสร้างของต้นทุนที่บริษัทจะต้องแบกรับภายใต้โมเดลธุรกิจนี้
เริ่มต้นจากการกำหนดกลุ่มลูกค้าที่เราเลือกให้ความสนใจ เจาะลึกเข้าไปให้พบความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา แล้วจึงนำเสนอคุณค่าที่เขาจะได้รับจากสินค้าและบริการของเรา กำหนดช่องทางการส่งมอบคุณค่าและออกแบบวิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจและยินดีจ่ายเงิน จนเกิดเป็นรายได้เข้าบริษัท
หลังจากที่มองเห็นกระแสรายได้ที่จะเข้ามายังธุรกิจแล้วก็ต้องมาดูโครงสร้างต้นทุนกันบ้าง เริ่มต้นจากการพิจารณาทรัพยากรหลักที่เราต้องใช้ในการผลิตคุณค่าที่เรานำเสนอ กิจกรรมหลักที่เราต้องทำ แล้วจึงมามองดูว่ามีใครบ้างที่พร้อมจะมาเป็นพันธมิตรหลักกับเรา คอยจัดหาทรัพยากรจากภายนอก หรือมาช่วยให้กิจกรรมหลักสำเร็จได้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็คือต้นทุนที่เราต้องใช้ในการเสนอคุณค่าให้ลูกค้า
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับแคนวาสง่ายๆ ตัวนี้ ง่ายกว่าการทำแผนธุรกิจแบบเดิมมากเลยใช่มั้ยครับ แถมยังช่วยให้เราได้คิดถึงธุรกิจเราแบบครอบคลุมเพียงพออีกด้วย ถ้าฝึกใช้บ่อยๆ จนคล่อง เวลามีไอเดียธุรกิจใหม่ๆ คุณจะสามารถทำแผนธุรกิจออกมาได้อย่างรวดเร็ว เหมือนที่บอกว่า "ไอเดียธุรกิจใหม่ สร้างได้ใน 1 ชม." เลยแหละครับ
ในบทความต่อๆ ไป ผมจะค่อยๆ มาเล่ารายละเอียดของแต่ละช่องให้ฟังอีกครั้งนะครับ
Comments