top of page
รูปภาพนักเขียนฐิติกร พูลภัทรชีวิน

เผ่าผึ้ง นักปฏิบัติพันธุ์อึด (Bee Tribe : The Provider) ผู้อาสาตัวอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ


ผึ้งเป็นสัตว์ประเภทหนึ่งที่คนมักนำมาใช้เปรียบเปรยถึงความขยัน เนื่องจากเรามักเห็นผึ้งทำงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อสะสมน้ำผึ้งไว้เป็นอาหารให้ฝูง ในดวงตาขนาดใหญ่ของผึ้งที่เราเห็น ประกอบด้วยดวงตาเล็ก ๆ เป็นรูปหกเหลี่ยมหลายพันตา รวมกัน เชื่อมติดต่อกันเป็นแผง ทำให้ผึ้งสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้รอบทิศ นอกจากนี้ผึ้งยังมีหนวดซึ่งทำหน้าที่รับความรู้สึกได้ไวมาก และยังมีเส้นประสาทที่เชื่อมกับขนตามลำตัวสำหรับรับสัมผัสแรงลมและกลิ่นของอาหาร โดยธรรมชาติแล้วผึ้งเป็นสัตว์ที่รักสงบ แม้ว่าจะมีเหล็กในที่แหลมคมและมีพิษอยู่ด้วย แต่ผึ้งจะตัดสินใจใช้มันก็ต่อเมื่อต้องปกป้องรังอันเป็นที่รักของตัวเองเท่านั้น และการทำเช่นนั้นก็จะต้องแลกด้วยชีวิตของตัวเอง


ผึ้งเป็นแมลงสังคมอยู่รวมกันเป็นฝูง ในหนึ่งฝูงจะมีนางพญาผึ้งอยู่หนึ่งตัว ผึ้งที่เหลือส่วนใหญ่มีหน้าที่ในการเก็บเอาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ไปผลิตเป็นน้ำผึ้งอันหอมหวานสำหรับนางพญาผึ้ง ผึ้งเป็นสัตว์ที่ฉลาดและมีระบบการทำงานภายในที่ดีเยี่ยม มีการใช้สัญลักษณ์เพื่อสื่อสารระหว่างกัน ผ่านลักษณะการบิน เช่น วนซ้าย วนขวา บินเป็นเลขแปด ฯลฯ ซึ่งเป็นการบอกเพื่อนของมันว่า แหล่งอาหารอยู่ในทิศทางไหน ระยะทางไกลแค่ไหน โดยปกติผึ้งจะมีพื้นที่หากินอยู่ภายในขอบเขตที่ไม่ห่างจากรังมากนัก ยกเว้นในกรณีที่รอบๆ บริเวณนั้นไม่มีเกสรดอกไม้เหลือแล้ว


ลักษณะเด่นของเผ่าผึ้ง

คนที่อยู่ในเผ่าผึ้ง มักจะเป็นคนที่มีความสุขในการที่ได้ดูแลจัดเตรียมจัดหาสิ่งต่างๆ ให้กับคนที่ตัวเองรัก คนในเผ่าผึ้งจะเหมือนมีเรดาร์พิเศษที่มองเห็นความต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น และจะพุ่งเข้าไปหาเพื่อช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว คนเผ่าผึ้งจำนวนมากมักจะวุ่นวายกับสารพัดเรื่องเกินกว่าจะมีเวลามาสนใจเรื่องการพัฒนาตัวเอง แม้ว่าเผ่าผึ้งจะไม่ได้โดดเด่นเรื่องทักษะความสามารถ แต่คนเผ่าผึ้งพร้อมที่จะอยู่เบื้องหลังเป็นผู้สนับสนุนที่ดีที่จะช่วยทำงานอย่างเต็มที่โดยไม่ปริปากบ่น ด้วยเหตุนี้คนเผ่าอื่นๆ จึงมักดีใจที่มีคนเผ่าผึ้งอยู่ในทีม คนเผ่าผึ้งมักเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและผู้บริหาร ไม่ค่อยมีใครที่เกลียดคนเผ่าผึ้งได้ลง คนเผ่าผึ้งชอบทำงานตามระบบระเบียบที่กำหนดไว้และมักมีอาณาเขตของตัวเองที่จำกัด โดยพื้นฐานเผ่าผึ้งจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ชอบต่อล้อต่อเถียงหรือสู้รบปรบมือกับใคร ยกเว้นในเวลาที่จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องคนที่ตัวเองรักเท่านั้น ถ้าใครมาแตะคนของเผ่าผึ้ง เผ่าผึ้งก็พร้อมยอมสู้ตายด้วยเช่นกัน

จุดอ่อนสำคัญของเผ่าผึ้ง คือ คนเผ่าผึ้งมักจะบริหารเวลาได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ด้วยความที่คนเผ่านี้เป็นคนที่นึกถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง ยินดีช่วยเหลือทำงานให้กับคนอื่นอย่างเต็มที่ ในขณะที่งานของตัวเองก็มีมากมายอยู่แล้ว คนเผ่าผึ้งจึงมักเลือกใช้วิธีทำงานให้หนักขึ้น จนอาจจะมากเกินไปโดยไม่รู้จักหยุดพักผ่อนบ้าง ถึงแม้จะทุ่มเทขยันขันแข็งมากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังพบว่าบ่อยครั้งที่ทำงานหลักที่ได้รับมอบหมายของตัวเองไม่เสร็จเพราะมัวแต่เอาเวลาไปช่วยทำงานให้คนอื่นนั่นเอง


คนเผ่าผึ้งจะต้องระวังหลุมพรางที่น่ากลัวของเผ่าผึ้ง คือ ภาวะหมดไฟในงาน (Burnout Syndrome) ด้วยความรักและหวังดีกับคนอื่น คนเผ่าผึ้งจึงมักจะแบกรับภาระหนักมากจนเกินไป (ทั้งจากเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว) แต่ก็ยังเลือกที่จะทำแบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ จนเมื่อความเครียดความล้าถูกสะสมมาจนถึงจุดหนึ่ง คนเผ่าผึ้งก็อาจจะทนไม่ไหวแล้วหยุดทำสิ่งต่างๆ ไปแบบดื้อๆ แต่เมื่อเผ่าผึ้งหยุดทำสิ่งที่เคยทำมา ก็อาจจะมีคนเผ่าอื่นบางคนที่ไม่เข้าใจ หรือคิดว่าคนเผ่าผึ้งเปลี่ยนไป บางคนก็อาจออกอาการไม่พอใจกับคนเผ่าผึ้งได้ ในครั้งแรกๆ ที่เกิดอาการแบบนี้ คนเผ่าผึ้งจะพยายามตัดสินใจลุกขึ้นมา และกลับมาคอยช่วยเหลือคนอื่นต่อ แต่เมื่อทำไปสักพัก ก็อาจจะกลับมาเหนื่อยล้าจนเข้าสู่สภาวะเดิมอีก และโดนคนอื่นตำหนิอีก กลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่ไม่มีสิ้นสุด นั่นจะยิ่งทำให้คนเผ่าผึ้งเกิดความรู้สึกเจ็บปวด รู้สึกสูญเสียตัวตน หรือรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า จนเข้าสู่สภาวะหมดไฟไปเลย สุดท้ายคนเผ่าผึ้งอาจปฏิเสธตัวตนของตัวเองในบทบาทการเป็นผู้จัดเตรียมไปเลยก็ได้


วิธีป้องกันไม่ให้ตกไปสู่หลุมพรางนี้ ก็คือ คนเผ่าผึ้งต้องรู้จักการจัดสรรเวลาและการจัดสรรงาน เรียงลำดับความสำคัญของงาน และแบ่งงานบางส่วนที่คนอื่นทำแทนได้ออกไปบ้าง และที่สำคัญ คนเผ่าผึ้งต้องเปิดรับความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้าง เมื่อรู้สึกไม่สบายใจหรือเหนื่อยล้าเกินไปก็ต้องหาคนปรึกษา เมื่อรู้สึกว่าตัดสินใจเลือกไม่ได้ว่าจะทำงานไหนไม่ทำงานไหน ก็หาคนช่วยตัดสินใจ เป็นต้น

ดู 192 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comentários

Avaliado com 0 de 5 estrelas.
Ainda sem avaliações

Adicione uma avaliação
bottom of page