กวาง เป็นสัตว์กินพืชที่แทบจะไม่มีอันตรายกับใคร กวางเป็นสัตว์ที่ปรับตัวได้ง่าย สามารถอยู่ได้ทั้งในพื้นที่ที่เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ ไปจนถึงถิ่นทุรกันดารแห้งแล้ง บนที่ราบสูง ไปจนถึงในเขตชนบทที่มีผู้คนอาศัยอยู่ กวางบางตัวชอบอยู่ตัวเดียวสันโดษยกเว้นในเวลาหาคู่ ในขณะที่กวางบางตัวก็จะอยู่รวมกันเป็นฝูง กวางเป็นสัตว์ที่มีสัญชาติญาณการระวังภัยสูงมาก จึงมักมีการตื่นตัวและระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้ยิน ได้กลิ่น หรือเห็นสิ่งผิดปกติ กวางจะชูคอขึ้นแล้วหันหน้าไปยังทิศทางที่มีสิ่งผิดปกติ ใบหูสองข้างก็จะหันไปในทิศทางนั้นเช่นกัน หางจะชี้ขึ้น ยืนนิ่งเงียบ ถ้าอยู่กันหลายตัว กวางจะไปยืนรวมกัน และหากว่าตัวใดตัวหนึ่งในนั้นเกิดตื่นตระหนกแล้ววิ่งออกไปจากกลุ่ม กวางที่เหลือก็จะตื่นตกใจและวิ่งหนีไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้สีขนของลูกกวาง โดยทั่วไปจะสามารถปรับเปลี่ยนให้กลมกลืนกับธรรมชาติรอบๆ ตัวได้ ลูกกวางแรกเกิดจะมีลายจุดสีขาวที่เกิดจากหย่อมขนบนตัว ซึ่งเมื่อเวลาตกใจหรือพบเห็นอันตราย หย่อมขนนี้จะมีสีที่เข้มขึ้น และเป็นประกายอย่างเห็นได้ชัด ช่วยอำพรางตัวลูกกวางนั้นจากอันตราย และยังกลายเป็นสัญญาณเตือนภัยให้กับเพื่อนในฝูงอีกด้วย กวางบางตัวจึงมีลักษณะเหมือนคนขี้อายที่มักหลบซ่อนไม่ออกมาโชว์ตัวให้เห็น แต่หากคุ้นเคยกับคนแล้ว ก็พร้อมที่จะออกมาแสดงตัวโชว์ความสวยงามได้
กวางเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์มากกับมนุษย์ หนังและขนสามารถนำมาทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม เขากวางก็นิยมนำมาใช้ในการประดับตกแต่งหรือเอามาทำเป็นยา เนื้อกวางก็สามารถทานได้ กวางเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับอารยธรรมของมนุษยชาติมาโดยตลอด จะเห็นได้จากภาพในถ้ำที่ขีดเขียนโดยมนุษย์สมัยโบราณ หรือในตำนานปรัมปราของนานาชาติก็จะมีกวางเป็นหนึ่งองค์ประกอบอยู่เสมอ
ลักษณะพิเศษของกวาง คือ เขากวางตัวผู้จะสามารถผลัดเปลี่ยนใหม่ได้ทุกปี เพื่อใช้ในการต่อสู้หรือไว้ดึงดูดเพศเมีย แม้ว่าเขากวางจะหักไปจากการต่อสู้ แต่เมื่อใกล้ถึงฤดูผสมพันธุ์ กวางตัวผู้ก็จะงอกเขาอ่อนขึ้นมาใหม่ ในเขาอ่อนนั้นมีลักษณะเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกอ่อน มีขนที่มีลักษณะเหมือนกำมะหยี่ปกคลุม ในขนนั้นจะมีเส้นประสาทและเส้นเลือดที่ส่งเลือดขึ้นไปเลี้ยงตลอดเวลา นำพาเอาสารอาหาร แร่ธาตุ ฮอร์โมน วิตามิน ขึ้นไปสู่เขาอ่อนนั้นอยู่เรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง เขาอ่อนนั้นก็จะแปรสภาพกลายเป็นเขาแข็งที่แท้จริง โดยมีกิ่งก้านสาขาใหญ่โตมากน้อยขึ้นอยู่กับอายุของกวาง แม้ว่ากวางตัวผู้จะมีเขาเอาไว้ใช้ต่อสู้กันเอง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์นักล่าทั้งหลายแล้ว เขานั้นก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ลักษณะเด่นของเผ่ากวาง
คนที่อยู่ในเผ่ากวางมักมีพรสวรรค์ในการสื่อสาร ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะเป็นการสื่อสารผ่านคำพูด หรือการเขียน หรือภาษากาย หรือแม้กระทั่งการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะออกมาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนอื่นๆ ก็เป็นได้ อาจพูดได้ว่าเผ่ากวางเป็นคนที่มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น คือ การมองเข้าในโลกแห่งจินตนาการ และใช้ทักษะเฉพาะตัวในการนำสิ่งที่อยู่ในจินตนาการออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง แม้ว่าเผ่ากวางส่วนใหญ่จะมีนิสัยเปิดเผย ร่าเริง สนุกสนาน รักอิสระ แต่ก็อาจมีความขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ไม่มั่นใจในตัวเองอยู่ในตัวเช่นกัน เผ่ากวางบางคนอาจพร้อมที่จะออกมายืนเด่นอยู่ตรงหน้าเวทีท่ามกลางผู้คนนับหมื่น ในขณะที่เผ่ากวางบางคนอาจไปเก็บตัวหลบมุมอยู่เงียบๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ล้ำเลิศออกมาก็ได้
แม้จะบอกว่าเผ่ากวางเป็นนักสื่อสาร แต่วิธีการที่เผ่ากวางแต่ละคนถนัดใช้ในการสื่อสารก็แตกต่างกันไป สำหรับแนวทางที่ไม่ใช่สิ่งที่ถนัด เผ่ากวางก็อาจสื่อสารด้วยวิธีการนั้นๆ ไม่ได้เลย ดังนั้นเราจึงอาจเห็นนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ เมื่อต้องจับไมค์พูดในเรื่องเดียวกัน กลับฟังดูไม่น่าตื่นเต้นเร้าใจเลยแม้แต่น้อย
เผ่ากวางจำนวนมาก ขาดความมั่นใจในตัวตนของตัวเอง ยิ่งเผ่ากวางบางคนที่มีผลงานโดดเด่น ทำให้คนเผ่าอื่นๆ ชื่นชมในทักษะความสามารถ เกิดเป็นความคาดหวังและคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าเผ่ากวางที่สร้างสรรค์ผลงานชั้นเลิศแบบนี้ออกมาได้ ตัวจริงน่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ จนกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้เผ่ากวางรู้สึกว่าไม่อยากเปิดเผยตัวจริงออกมาว่าตัวเองก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น หลายคนจึงเลือกไปหลบอยู่ในมุมมืด บางคนก็อาจพยายามเสแสร้งแกล้งทำเป็นอีกคนหนึ่ง ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ชอบ นี่นับว่าเป็นหนึ่งในจุดอ่อนที่เผ่ากวางต้องไม่ปล่อยเอาไว้ เผ่ากวางต้องไม่ยอมปล่อยให้ความกลัวการถูกปฏิเสธมาทำให้ตัวเองต้องสูญเสียตัวตนและพื้นที่ยืนในสังคมไป การเสี่ยงเปิดเผยตัวตนออกมา อาจทำให้เห็นปฏิกิริยาผิดหวังจากคนกลุ่มหนึ่งได้ แต่นั่นจะแลกมากับอิสระในการใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองเป็น ซึ่งคุ้มค่ากว่าอย่างมากมาย
หลุมพรางที่เผ่ากวางจะต้องระวัง คือ โดยทั่วไปเผ่ากวางมักจะมีทัศนคติในแง่บวก ทำให้มองเห็นความสวยงามของสิ่งต่างๆ หรือเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ได้ อย่างไรก็ดีเผ่ากวางส่วนใหญ่ไม่ได้มีนิสัยชอบผจญภัยออกไปสู่โลกกว้างนัก จึงทำให้ไม่ค่อยได้เห็นความเป็นจริงของโลกนี้ที่บางมุมก็เลวร้ายมากกว่าที่จะจินตนาการได้ นั่นทำให้เผ่ากวางมีแนวโน้มที่จะเป็นคนโลกสวยเกินเหตุ และเมื่อถึงคราวที่เผ่ากวางจำเป็นต้องออกนอกคอมฟอร์ทโซนหรือถิ่นของตัวเอง ก็อาจทำให้เผ่ากวางไม่มีภูมิต้านทานเพียงพอที่จะรองรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตได้
Comments