ตาชั่งมักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรม เนื่องจากมันคืออุปกรณ์สำคัญในการแลกเปลี่ยนสินค้าตั้งแต่ยุคสมัยโบราณ ตาชั่งถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าข้อแลกเปลี่ยนที่แต่ละฝ่ายได้ตกลงกันเอาไว้ เป็นไปตามนั้นจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง และการทะเลาะวิวาทที่จะตามในภายหลัง ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาสังคมในภาพรวมได้ และการจะทำให้ผู้ซื้อผู้ขายเกิดความสบายใจว่าตาชั่งนั้นทำงานถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ก็จำเป็นต้องมีตั้งศูนย์เครื่องอยู่เสมอ ตาชั่งมีหลายขนาด ซึ่งผู้ใช้จำเป็นต้องเลือกใช้ตามความเหมาะสม ตาชั่งที่ดีจะต้องวัดค่าได้แม่นยำ อ่านค่าได้รวดเร็ว บอกค่าได้ละเอียด มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แต่แม้ว่าตาชั่งจะดีขนาดไหนก็ยังอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ เช่น ตุ้มถ่วงน้ำหนักที่นำมาใช้ไม่ได้มาตรฐาน เครื่องชั่งตั้งอยู่บนพื้นที่ไม่ได้ระนาบ เกิดการสั่นสะเทือนระหว่างการวัด หรืออาจใช้งานนานเกินไปโดยขาดการตรวจสอบซ่อมบำรุงจนทำให้สปริงเสื่อมคุณภาพ เป็นต้น
ลักษณะเด่นของเผ่าตาชั่ง
เผ่าตาชั่งจัดเป็นหมวดของการนำอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เน้นไปที่ตัวคน แต่ให้ความสำคัญกับระบบก่อน โดยมีความเชื่อพื้นฐานว่า เมื่อระบบดีแล้ว คนที่อยู่ในระบบก็จะผลิตผลงานที่ดีออกมาได้เอง คนที่อยู่ในเผ่าตาชั่ง มักมีวิธีคิดอย่างเป็นระบบ เข้าใจโครงสร้างความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล จึงทำให้คนเผ่าตาชั่งสามารถกำหนดกฎระเบียบ วางโครงสร้างองค์กร ออกแบบระบบการทำงานได้เป็นอย่างดี และนอกจากออกแบบแล้ว คนเผ่าตาชั่งยังถนัดในการตรวจสอบคนอื่นๆ ว่าทำตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้หรือไม่
ด้วยความที่ต้องการให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด คนเผ่าตาชั่งจึงมักหาระบบ วิธีการหรือเครื่องมือต่างๆ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพที่ดีมาให้คนในทีมใช้ และมักเชื่อว่าระบบที่ดีนั้นจะช่วยให้ไม่ว่าใครที่ทำตามก็จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีเช่นเดียวกันได้ จึงพยายามบังคับใช้ระบบอย่างเคร่งครัด และด้วยความละเอียดที่มี กับความยึดมั่นในกฎระเบียบกระบวนการต่างๆ ทำให้เผ่าตาชั่งมักติดนิสัยชอบตรวจสอบมาด้วย ด้วยเหตุนี้คนเผ่าตาชั่งจึงอาจทำให้คนเผ่าอื่นๆ ในทีมรู้สึกอึดอัด สูญเสียอิสระ ไม่สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองได้ นี่ถือเป็นจุดอ่อนที่ยอมรับได้ของคนเผ่าตาชั่ง แต่ต้องระวังอย่าให้เลยเส้น อย่าทำตัวเป็นเหมือนงูที่ซุ่มอยู่ข้างทาง คอยฉกทำร้ายคนที่หลงเข้ามาในอาณาเขตของตน หมายความว่า อย่าเอาแต่คอยจ้องจับผิดคนที่ทำผิดกฎระเบียบแล้วเข้าเล่นงานอย่างหนักหน่วง แต่เมื่อพบคนที่ทำไม่ถูกต้อง ต้องคิดหาวิธีการช่วยเหลือเขาให้เขาสามารถทำได้ถูกต้อง หรือโน้มน้าวใจเขาให้เขาอยากทำตาม หรือในบางครั้งยังอาจต้องพิจารณาด้วยว่า กฎระเบียบวิธีการทำงานที่กำหนดไว้นั้น เป็นสิ่งที่ดีที่สุดจริงหรือไม่ แล้วมันเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมขององค์กรและบุคลากรหรือไม่
โดยพื้นฐานคนเผ่าตาชั่ง จะเชื่อมั่นในระบบหรือเครื่องมือต่างๆ ได้ยาก ซึ่งก่อนที่จะนำระบบนั้นมาใช้ คนเผ่าตาชั่งก็มักจะต้องทดสอบแล้วทดสอบอีกจนมั่นใจในแนวคิดนั้นว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ในทางกลับกันเมื่อคนเผ่าตาชั่งเชื่ออะไรแล้ว ก็จะเปลี่ยนให้ไม่เชื่อได้ยาก ดังนั้นจึงต้องระวังไม่ตกไปในหลุมพรางของเผ่าตาชั่ง คือ การยึดติดกับระบบที่ตัวเองสร้างมากเกินไป การเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เคยผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าดีก็จะทำงานได้ดีต่อไปเรื่อยๆ คนเผ่าตาชั่งต้องระวังอย่าให้ระบบที่ตัวเองสร้าง มาครอบงำตัวเองจนกลายเป็นข้อจำกัดไป แต่ต้องคิดอยู่เสมอว่า ระบบระเบียบ กฎกติกาที่ถูกสร้างขึ้นมานั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยมนุษย์ให้ทำงานได้ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่มีไว้เพื่อขัดขวางมนุษย์ เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นว่าระบบระเบียบที่กำหนดไว้นั้นมันกลายเป็นตัวขัดขวางองค์กรที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ เมื่อนั้นก็ถึงเวลาที่จะต้องเริ่มต้นวิเคราะห์แก้ไขปรับปรุงกฎระบบระเบียบต่างๆ เหล่านั้น เช่นเดียวกับตาชั่งที่ไม่ว่าจะดีแค่ไหน ก็ยังอาจให้ผลลัพธ์ที่ผิดพลาดได้ คนเผ่าตาชั่งไม่ว่าจะเก่งและรอบคอบขนาดไหน ก็อาจตัดสินใจผิดพลาดได้ หากไม่ระวังปัญหาเหล่านี้
(1) เลือกใช้เครื่องชั่งน้ำหนักผิดประเภท หมายถึง หยิบเครื่องมือหรือระบบมาใช้ได้ไม่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ เช่น ต้องการวัดความสำเร็จของพนักงานขาย แต่ไปเน้นให้ความสำคัญที่การเข้างานตรงเวลาเป็นหลัก (2) ตุ้มถ่วงน้ำหนักที่นำมาใช้ไม่ได้มาตรฐาน หมายถึง ได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดทำให้ผลที่ออกมาคลาดเคลื่อนไป แต่คุณกลับยึดเอาผลลัพธ์นั้นมาเป็นเกณฑ์ตัดสินใจ เช่น มีผู้เสนอให้ปรับระบบการทำงานใหม่ และคุณได้สั่งการให้ทีมของคุณไปสำรวจความเห็นของพนักงาน แต่ทีมของคุณซึ่งมีแนวโน้มไปทางไม่เห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยนนั้น เลือกไปสอบถามเฉพาะคนที่ไม่เห็นด้วย ทำให้ผลการสำรวจออกมาว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย และคุณก็เลือกเชื่อผลสรุปนั้นจึงไม่ได้ให้ทำการปรับระบบการทำงาน (3) ตัวเครื่องชั่งตั้งอยู่บนพื้นที่ไม่ได้ระนาบ หมายถึง คุณมีทัศนคติมุมมองที่โน้มเอียงไปจากความเป็นจริง ซึ่งในบางครั้งเกิดจากสภาพแวดล้อมภายในองค์กร ค่านิยม วัฒนธรรม และสิ่งที่ปฏิบัติกันมานาน เช่น ในงานชิ้นหนึ่ง มีค่าเฉลี่ยคนที่ทำงานนี้ผิดพลาดอยู่ประมาณ 10% แทนที่จะคิดว่ามันเป็นความผิดปกติ แต่ด้วยความที่ทำงานมานาน หรือคนในองค์กรต่างก็รู้สึกว่ายอมรับได้กับ 10% นี้ ทำให้คุณคิดไปว่างานนี้ไม่มีอะไรที่จำเป็นต้องพัฒนาแล้ว (4) เกิดการสั่นสะเทือนระหว่างการวัด หมายถึง ตัวระบบอาจไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ระหว่างที่คุณกำลังทำการวิเคราะห์ข้อมูล คิดสร้างสรรค์หาวิธีการตรวจสอบแก้ไขปัญหาต่างๆ คุณอาจถูกรบกวนโดยงานหรือคนรอบข้างอื่นๆ จนทำให้เสียสมาธิและนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด (5) ใช้งานนานเกินไปโดยขาดการตรวจสอบซ่อมบำรุงจนทำให้สปริงเสื่อมคุณภาพ หมายถึง คุณทำงานแบบเดิม ด้วยวิธีการเดิม ระบบเดิม เครื่องมือเดิม มานาน และไม่ได้มีการตรวจสอบว่าสิ่งที่ทำมานานนั้นยังสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางการแข่งขันในปัจจุบันหรือไม่ เช่น หน่วยงานราชการหรือเอกชนบางแห่ง ยังรู้สึกว่าเพื่อความปลอดภัยของผู้มาติดต่อ จะต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนยืนยันตัวตนอยู่ และอ้างว่าทำตามกฎระเบียบ ทั้งที่ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนแล้ว
Comments