เผ่านักรบ ทหารแนวหน้า (Warrior Tribe : The Vanguard) ผู้พร้อมออกไปลุยชนกับทุกอุปสรรค

นักรบ เป็นคำเรียกสำหรับทหารที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความกล้าหาญชาญชัย และฝีไม้ลายมือในการรบพุ่งที่สามารถนำเอาชัยชนะมาให้กับอาณาจักรได้ ในยามศึก เหล่านักรบก็จะต้องออกไปเป็นทหารกองหน้า คอยรบพุ่งประชันกับข้าศึกศัตรู ในยามสงบ ส่วนใหญ่นักรบจะต้องประจำการอยู่นอกกำแพงเมือง เพื่อคอยตรวจสอบรักษาเขตแดนของอาณาจักรไม่ให้มีข้าศึกเข้ามารุกล้ำ โดยส่วนใหญ่ชีวิตของเหล่านักรบจึงมักอยู่กันแบบเรียบง่าย ไม่ได้คำนึงถึงความสะดวกสบายมากนัก ความรักผูกพันกันในกลุ่มนักรบจะค่อนข้างสูงมาก ที่อยู่ของเผ่านักรบ มักจะเป็นเต๊นท์ที่กางอยู่ในสนามรบ สิ่งที่สำคัญสำหรับเผ่านักรบจึงเป็นการเลือกจุดที่ตั้งเต๊นท์อย่างเหมาะสม มีพื้นที่สำหรับตัวเองอย่างเพียงพอ แต่ก็สามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนนักรบได้อย่างใกล้ชิด ไม่แยกออกไปอยู่โดดเดี่ยว ปักหลักหมุดเต๊นท์ให้เข้มแข็งมั่นคงพอจะต้านทานลมฝนพายุกล้าได้ ในทางกลับกันก็พร้อมที่จะขยับขยายย้ายที่เพื่อเข้าสู่สนามรบถัดไป สำหรับเผ่านักรบ สิ่งที่สำคัญในการสู้รบไม่ใช่ความรู้ว่าจะรบอย่างไรให้ชนะ แต่เป็นความแข็งแกร่งทั้งด้านร่างกายและจิตใจ และทักษะการต่อสู้ที่มีอยู่ ซึ่งจะพิสูจน์ได้โดยเกียรติภูมิชัยชนะที่เคยได้รับมา หรือการประลองกันแบบตัวต่อตัว

ลักษณะเด่นของเผ่านักรบ

คนเผ่านักรบ มักเป็นนักปฏิบัติตัวยง เมื่อได้รับมอบหมายภารกิจใดแล้ว พวกเขาก็จะตั้งใจทำมันด้วยความมุ่งมั่น จริงจัง กล้าได้กล้าเสีย ไม่ยอมปล่อยให้อะไรมาเป็นอุปสรรคขัดขวาง และจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะสำเร็จเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงเป็นคนที่สามารถไว้วางใจให้ทำภารกิจยากๆ ได้ ส่วนใหญ่มักเป็นคนประเภทลงมือทำทันที ตัดสินใจอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดไตร่ตรองหรือรวบรวมข้อมูลอะไรเพิ่มเติม คนเผ่านักรบส่วนใหญ่จะเป็นคนง่ายๆ ตรงไปตรงมา คิดอะไรก็จะพูดและทำแบบนั้น ถ้าไม่พอใจอะไรก็พร้อมจะแสดงอารมณ์ออกมาแบบทันที โดยเชื่อว่านั่นคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คนเข้าใจกัน ไม่ชอบการเสแสร้งแกล้งทำดีต่อหน้าแล้วแอบไปนินทากันลับหลัง

คนเผ่านักรบไม่ใช่คนที่ยอมรับใครเป็นหัวหน้าหรือยอมเชื่อฟังคำสั่งใครง่ายๆ แม้ว่าคนนั้นจะมีตำแหน่งสูงกว่าและได้รับการแต่งตั้งมาอย่างถูกต้องก็ตาม สำหรับเผ่านักรบ คนที่จะทำให้พวกเขายอมรับได้ จะต้องผ่านการพิสูจน์ชีวิตในหลากหลายมิติเสียก่อน และเมื่อทำให้พวกเขายอมรับได้แล้ว พวกเขาจะยินดีเชื่อฟังและทำตามอย่างทุ่มเททั้งกำลังกายกำลังใจด้วยความจงรักภักดี แม้ว่างานนั้นจะไม่ใช่งานที่อยากทำ แต่หากเป็นภารกิจที่หัวหน้าที่เขายอมรับมอบหมายมาให้แล้ว ก็จะทำตามโดยไม่โต้แย้ง

ด้วยความเป็นคนตรงไปตรงมาและมุ่งมั่นทุ่มเทที่จะทำให้คำสั่งของเจ้านายสำเร็จ หลายครั้งที่พฤติกรรมของเผ่านักรบอาจจะดูแข็งกร้าวแบบขวานผ่าซาก และอาจไม่สนใจว่าใครจะรู้สึกอย่างไรหรือได้รับผล กระทบอะไร เพราะสิ่งเดียวที่เขายึดมั่นคือ ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จ ซึ่งถ้าอยู่ในระดับที่ไม่มากเกินไปก็ถือว่าเป็นจุดอ่อนที่ยอมรับได้ แต่ต้องระวังไม่ให้แข็งกระด้างจนกลายเป็นก้าวร้าว รวดเร็วจนกลายเป็นหละหลวม เผ่านักรบต้องตระหนักเสมอว่า ภารกิจแสนท้าทายที่ได้รับมอบหมาย ไม่ได้มีแค่เรื่องเฉพาะหน้าที่ต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไรตลอดเวลาที่ออกไปทำภารกิจนั้นด้วย โดยเฉพาะเมื่อกองทัพกำลังขับเคลื่อนด้วยแผนยุทธศาสตร์ บ่อยครั้งที่ผู้บัญชาการที่มีอำนาจตัดสินใจอาจยอมรับความพ่ายแพ้ในบางจุด เพื่อให้ภาพรวมของกองทัพได้รับชัยชนะ ซึ่งหากเผ่านักรบไม่ยอมทำความเข้าใจกับแผนกลยุทธ์นั้น เอาแต่มุ่งมั่นจะทำงานที่ตนได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จอย่างเดียว จนไม่ยอมเชื่อฟัง ไม่ยอมทำตามคำสั่งเชิงกลยุทธ์ที่อาจขัดต่อสถานการณ์เฉพาะหน้าที่ตัวเองเผชิญอยู่ ความดื้อดึงนั้นอาจทำให้กองทัพชนะในสนามรบที่ตัวเองอยู่ แต่ต้องพ่ายแพ้ทั้งสงคราม

หลุมพรางที่เผ่านักรบต้องระวังก็คือ โดยทั่วไปเผ่านักรบจะไม่ชอบแสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครเห็น เมื่ือเผชิญกับปัญหาจึงไม่ยอมพึ่งพาใคร ไม่ยอมเข้าหาผู้ใหญ่เพื่อรายงานปัญหาและขอความช่วยเหลือ เพราะกลัวจะถูกตำหนิต่อว่า จึงเลือกเผชิญหน้ากับอุปสรรคปัญหาใหญ่เพียงลำพัง จนอาจทำให้ผิดพลาดล้มเหลวขั้นร้ายแรงได้ หรือบางคนก็อาจไปปรึกษากับเพื่อนนักรบด้วยกัน เพื่อให้มาช่วยกันแก้ไขปัญหา ถึงแม้อาจดูดีกว่าแต่ก็อย่าลืมว่าเพื่อนนักรบที่อยู่ในระดับเดียวกัน ก็มีข้อจำกัดเหมือนกันกับตัวเราเอง การนำคนที่ไม่มีขีดความสามารถในการแก้ไขปัญหานั้นได้มารวมกันหลายๆ คน ไม่ได้ช่วยเพิ่มโอกาสในการแก้ไขปัญหาได้แต่อย่างใด วิธีที่ถูกต้องที่สุดคือ การกล้าเผชิญหน้ากับคำตำหนิ และกล้าที่จะยอมรับในความผิดของตัวเอง เอาปัญหาที่เกิดขึ้นไปรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาหรือผู้ที่มีขีดความสามารถในการแก้ไขปัญหานั้นรับทราบอย่างทันท่วงที